การบำบัดดินและน้ำที่ปนเปื้อนด้วยสารตะกั่วโดยใช้พืช
ศ.ดร. มาลียา เครือตราชู ภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ปัญหามลภาวะในสิ่งแวดล้อม กำลังเป็นปัญหาที่สำคัญของประเทศไทยและของโลก โลหะหนักเป็นสารก่อมลภาวะที่สำคัญ เพราะไม่ถูกทำลาย หรือสลายตัวช้ามากและมีพิษต่อสิ่งมีชีวิตโดยมีการสะสมเป็นปริมาณมากขึ้นเรื่อยๆ ในห่วงโซ่อาหาร โลหะหนักสำคัญที่เป็นปัญหามลภาวะของประเทศไทย คือ ตะกั่วและแคดเมียม ตะกั่วมีการสลายตัวช้ามาก (150 – 500 ปี) แหล่งที่มีการใช้ตะกั่ว คือ เหมืองตะกั่ว โรงงานอุตสาหกรรมสี น้ำมันเบนซิน โรงงานแบตเตอรี่ เป็นต้น ตะกั่วมีผลต่อสุขภาพ โดยมีผลต่อระบบประสาท ไต และ ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย การกำจัดตะกั่วในดิน อาจทำได้โดยการขุดดินที่ปนเปื้อน เคลื่อนย้ายออกมาเพื่อการฝังกลบ (landfill) และดินใหม่จะถูกนำมาแทนที่ ส่วนการกำจัดตะกั่วในระบบบำบัดน้ำเสีย อาศัยวิธีการทำให้ตะกั่วตกตะกอนด้วยสารเคมี ซึ่งต้องนำตะกอนเหล่านี้ไปฝังกลบอีกทีหนึ่ง กระบวนการเหล่านี้ มิได้แก้ปัญหาการปนเปื้อนเพียงแต่ย้ายดินหรือตะกอนที่มีโลหะหนักจากบริเวณหนึ่งไปสู่อีกบริเวณหนึ่งเท่านั้น และมีค่าใช้จ่ายสูงมาก นอกจากนี้ วิธีการดังกล่าวยังไม่สามารถกำจัดตะกั่วที่ปนเปื้อนในปริมาณต่ำๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้นจึงได้มีการศึกษาหาวิธีการกำจัดตะกั่วที่มีค่าใช้จ่ายต่ำ มีขั้นตอนไม่ซับซ้อนและไม่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เป็นเทคโนโลยีที่สะอาด (clean technology) เทคโนโลยีการบำบัดดินหรือน้ำที่ปนเปื้อนด้วยโลหะหนักโดยใช้พืช (phytoremediation) เป็นทางเลือกอีกอันหนึ่งโดยอาศัยความสามารถของพืชที่ทนต่อโลหะหนัก และสะสมโลหะหนักได้เป็นปริมาณมากด้วย… (read more)