ข้าวไทย…ปลอดภัยจากโลหะที่เป็นอันตราย (Thai rice is safe from the contamination of toxic metals) จากที่มีผลงานวิจัยของนักวิชาการจากประเทศสหรัฐอเมริกา (มหาวิทยาลัย Monmouth ในรัฐ New Jersey) รายงานว่า ข้าวจากเอเชีย ยุโรป และอเมริกาใต้ ที่นำเข้าไปขายในสหรัฐอเมริกามีปริมาณสารตะกั่วปนเปื้อนเกินมาตรฐาน ซึ่งอาจจะเป็นอันตรายต่อสุขภาพผู้บริโภคได้ โดยเฉพาะทารกและเด็กเล็ก ในการศึกษาครั้งนี้ได้ทำการเก็บตัวอย่างข้าวที่มีจำหน่ายตามท้องตลาดในสหรัฐอเมริกา ทั้งจากภูฏาน, อิตาลี, จีน, ไต้หวัน, อินเดีย, อิสราเอล, สาธารณรัฐเช็ก และไทย ซึ่งข้าวที่นำเข้าเหล่านี้คิดเป็น 65% ของข้าวทั้งหมดที่สหรัฐนำเข้า มาทำการตรวจวิเคราะห์ปริมาณสารตะกั่ว ซึ่งผลการวิเคราะห์พบว่า ข้าวทั้งหมดมีปริมาณสารตะกั่ว 6-12 มิลลิกรัมต่อข้าว 1 กิโลกรัม โดยข้าวจากจีนและไต้หวัน มีปริมาณสารตะกั่วปนเปื้อนสูงที่สุด หลังจากนั้นประเทศไต้หวัน (Council of Agriculture; COA) ได้ออกมาปฏิเสธว่า จากการตรวจสอบตัวอย่างข้าวบรรจุถุงในทุกปี จำนวน 162 ตัวอย่าง ไม่ตรวจพบปริมาณสารตะกั่วเกินค่ามาตรฐานที่รัฐบาลไต้หวันกำหนดไว้ (The acceptable level of lead in rice 0.2 mg/kg accordance with the Codex Alimentarius Commission) ห้องปฏิบัติการเภสัชวิทยา สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ และศูนย์ความเป็นเลิศด้านอนามัยสิ่งแวดล้อม และพิษวิทยา (Center of Excellence on Environmental Health and Toxicology; EHT) ได้มีการศึกษาวิจัยเรื่อง ความปลอดภัยและคุณภาพของข้าวไทย โดยทำการสุ่มตัวอย่างข้าวบรรจุถุงชนิดต่างๆที่มีจำหน่ายในท้องตลาด ตั้งแต่ปี 2550-2556 รวมทั้งข้าวที่ได้จากการที่ศาสตราจารย์ ดร. สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี องค์ประธานสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ เสด็จทรงงานในหน่วยแพทย์อาสาสมเด็จพระศรี นครินทราบรมราชชนนี (พอ.สว.) ตามจังหวัดในภาคต่างๆทั่วประเทศไทยมาทำการตรวจวิเคราะห์ปริมาณโลหะที่เป็นพิษ เช่น สารหนู, แคดเมียม, และตะกั่ว ด้วยเครื่อง Inductively Coupled Plasma Mass Spectrometer (ICP-MS) ผลการวิเคราะห์ (ตารางที่ 1) พบว่า ข้าวไทย ไม่ว่าจะเป็นชนิดข้าวขาว (รวมข้าวหอมมะลิ จำนวน 181 ตัวอย่าง), ข้าวแดงหรือข้าวกล้อง (จำนวน 77 ตัวอย่าง) หรือข้าวเหนียว (จำนวน 32 ตัวอย่าง) มีปริมาณเฉลี่ยของสารหนู, แคดเมียม, และตะกั่ว อยู่ในปริมาณต่ำกว่าค่าสูงสุดที่ยอมให้มีได้ในข้าวที่กำหนดโดยหน่วยงานของประเทศต่างๆ (ตารางที่ 2) ข้าวแดงหรือข้าวกล้องมีปริมาณสารหนูและตะกั่วเฉลี่ย (0.185 และ 0.032 มิลลิกรัมต่อข้าว 1 กิโลกรัม ตามลำดับ) สูงกว่าข้าวชนิดอื่นๆ ส่วนข้าวเหนียวมีปริมาณแคดเมียมเฉลี่ย (0.024 มิลลิกรัมต่อข้าว 1 กิโลกรัม) มีตัวอย่างข้าวขาว 3 ตัวอย่าง และข้าวแดง/ข้าวกล้อง 7 ตัวอย่าง ที่มีปริมาณสารหนูเกิน 0.3 มิลลิกรัมต่อข้าว 1 กิโลกรัม ส่วนปริมาณแคดเมียมในข้าวทุกชนิด พบว่า มีเพียงข้าวขาว 2 ตัวอย่างเท่านั้น ที่มีปริมาณแคดเมียมเกิน 0.1 มิลลิกรัมต่อข้าว 1 กิโลกรัม นอกจากนี้ยังพบว่า ปริมาณตะกั่วที่ตรวจพบในตัวอย่างข้าวไทยเกือบทั้งหมดมีปริมาณน้อยกว่า 0.2 มิลลิกรัมต่อข้าว 1 กิโลกรัม มีข้าวขาวเพียง 3 ตัวอย่างจาก 181 ตัวอย่าง และข้าวแดง/ข้าวกล้อง 1 ตัวอย่างจาก 79 ตัวอย่าง ที่มีปริมาณตะกั่วเกินค่าสูงสุดที่กำหนดไว้ (>0.2 มิลลิกรัมต่อข้าว 1 กิโลกรัม) ส่วนปริมาณตะกั่วในข้าวเหนียวที่ตรวจพบสูงสุด คือ 0.097 มิลลิกรัมต่อข้าว 1 กิโลกรัม ซึ่งก็ยังต่ำกว่าค่าสูงสุดที่กำหนดไว้คือ 0.2 มิลลิกรัมต่อข้าว 1 กิโลกรัม ดังนั้นข้าวไทยชนิดต่างๆที่ได้ทำการสุ่มตัวอย่างมานี้ จึงมีความปลอดภัยจากการปนเปื้อนของโลหะที่เป็นอันตรายเหล่านี้ ซึ่งสามารถนำมาบริโภคได้อย่างสบายใจและสามารถส่งออกไปจำหน่ายยังประเทศต่างๆได้ ตารางที่ 1 ปริมาณสารหนู (Arsenic), แคดเมียม (Cadmium) และตะกั่ว (Lead) ในข้าวชนิดต่างๆที่มีจำหน่ายในประเทศไทย และตามจังหวัดภาคต่างๆของประเทศไทย (mean±S.E.) (mg/kg)
– ค่าในวงเล็บ คือ ค่าน้อยสุด-ค่าสูงสุด – Detection limit for arsenic (As) = 0.008 mg/kg; cadmium (Cd) = 0.008 mg/kg; lead (Pb) = 0.025 mg/kg ตารางที่ 2 ค่ามาตรฐานของสารหนู (Arsenic), แคดเมียม (Cadmium) และตะกั่ว (Lead) ที่ยอมรับให้มีได้ในตัวอย่างข้าว และผลิตภัณฑ์จากข้าว
As = Arsenic; Cd = Cadmium; Pb = Lead หมายเหตุ: สำหรับรายละเอียดข้อมูลของงานวิจัยบางส่วนสามารถอ่านเพิ่มเติมได้ดังต่่อไปนี้ |